
วิธีคุมกำเนิดหลังตั้งครรภ์
หากต้องการคุมกำเนิดหลังการตั้งครรภ์ (หรือที่เรียกว่าการยุบกำเนิด) มีวิธีที่สามารถพิจารณาได้:
1. ผ่าตัดคลอดครบทาง ผ่าตัดคลอดครบทางหรือการผ่าตัดที่ทำเพื่อยุบกำเนิดและป้องกันการตั้งครรภ์ในอนาคต แต่ต้องระมัดระวังว่าการผ่าตัดคลอดครบทางมักถือเป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่สมบูรณ์และไม่สามารถกลับไปทำแก้ไขได้ง่าย
2. ใช้ยาคุมกำเนิดหรือปฏิสัมพันธ์ฮอร์โมน หลังการตั้งครรภ์, แพทย์อาจสั่งยาคุมกำเนิดหรือปฏิสัมพันธ์ฮอร์โมนเพื่อช่วยยุบกำเนิด ยาเหล่านี้มักใช้เพื่อกระตุ้นการแพร่พันธุ์ของเซลล์ไข่และปฏิสัมพันธ์ฮอร์โมนในระบบสืบพันธุ์ แต่วิธีนี้มักใช้ในระยะต้นของการตั้งครรภ์และต้องใช้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
3. การผ่าตัดช่องคลอด ในบางกรณีที่มีความเสี่ยงสูงต่อการคงอยู่ของแม่หรือทารก แพทย์อาจต้องทำการผ่าตัดช่องคลอดเพื่อยุบกำเนิด
4. การยุบกำเนิดธรรมชาติ กระบวนการการยุบกำเนิดธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงทางการแพทย์ เช่น เมื่อเกิดการแยกส่วนของทารกและก่อนมีการเปิดเผ่าน้อยจนถึงเวลาที่น่าจะคลอด
ในทุกกรณี ควรพูดคุยกับแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลและคำแนะนำที่เหมาะสมต่อสภาพและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
ยาคุมกำเนิดมีอะไรบ้าง
ยาคุมกำเนิดมีหลายประเภทและหลายชื่อทางการค้า แต่สามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทหลัก คือยาคุมกำเนิดฉุกเฉินและยาคุมกำเนิดปกติที่ใช้เป็น วิธีการคุมกำเนิดระยะยาว นี่คือบางตัวอย่างของแต่ละประเภท:
1. ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน:
– Levonorgestrel (ยาเมโทรกโพเนท)
– Ulipristal acetate (ยาอุลิพริสแทลอะเซเทต)
2. ยาคุมกำเนิดปกติ (ใช้เป็นวิธีการคุมกำเนิดระยะยาว):
– Combined oral contraceptives (COCs) ประกอบด้วยฮอร์โมนอีสโตรเจนและโปรเจสเทอโรน
– Progestin-only pills (POP) ซึ่งเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า mini-pills
– Contraceptive patch
– Contraceptive ring
– Contraceptive injection (Depo-Provera)
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมักใช้หลังเกิดเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยหรือการเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์โดยไม่มีการคุมกำเนิดในขณะที่ยาคุมกำเนิดปกติถูกใช้เป็นวิธีการคุมกำเนิดระยะยาวเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในระยะยาวๆ โดยมักต้องใช้เป็นประจำและมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่ต้องการในช่วงเวลาต่อมา
อ้างอิงจากแหล่ง https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/lessons/contraception/
