ลูกท้องผูกบ่อยจัดการอย่างไรดี
ทุกครั้งที่ลูกท้องผูกพ่อแม่จะมีความกังวลใจเป็นอย่างมาก อยากหาวิธีบรรเทาหรือลดอาการความเจ็บปวดของลูก ซึ่งอาการท้องผูกเป็นโรคที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ทุกครั้งที่เด็กมีการปวดอุจจาระเด็กจะมีอาการปวดท้องซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับเด็กมาก และถ้าปล่อยไว้เป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กได้ในระยะยาว พ่อแม่ควรหาวิธีบรรเทาอาการเหล่านี้ให้กับลูก วันนี้Heartsmom ขอแนะนำวิธีการจัดการกับอาการท้องผูกในเด็กกันคะ

สาเหตุที่ทำให้ลูกมีอาการท้องผูกบ่อยๆ
หากพ่อแม่อยากรู้ว่าจะมีวิธีไหนที่จะช่วยบรรเทาอาการท้องผูกของลูกได้ ก่อนอื่นเราต้องมาหาสาเหตุที่ทำให้ลูกท้องผูกกันก่อนคะ ซึ่งสามารถแบ่งเป็น3สาเหตุหลักๆ คือ
1.ปัญหาจากอาหารการกิน
อาการท้องผูกตามธรรมชาติสามารถรักษาได้โดยการปรับสภาพร่างกายและอาหารการกิน หากทารกกินน้อยเกินไปจะมีกากน้อยหลังจากอาหารถูกย่อยแล้วจะมีอุจจาระน้อยลงตามธรรมชาติ น้ำตาลในนมไม่เพียงพออาจทำให้อุจจาระแห้งได้ หากทารกรับประทานอาหารน้อยเกินไปเป็นเวลานานๆจะทำให้ลำไส้เริ่มอ่อนแอ และไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและจะทำให้เกิดอาการท้องผูก อุจจาระนั้นเกี่ยวข้องกับอาหารการกินที่ทารกกินเข้าไปในแต่ละมื้อ หากอาหารที่ทานเข้าไปมีโปรตีนมากแต่มีคาร์โบไฮเดรตน้อย จะทำให้อุจจาระมีลักษณะแห้ง อาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตเป็นองค์ประกอบจะช่วยให้อุจจาระมีความหล่อลื่นไม่แห้งจนเกินไป ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะทำอาหารน่าทานแค่ไหนแต่ถ้าขาดกากใยอาหารก็สามารถทำให้ท้องผูกได้เช่นกัน
2. เกิดจากการขับถ่ายที่ไม่เป็นเวลา
เด็กบางคนไม่ได้รับการถูกฝึกให้มีวินัยในการขับถ่าย จึงมีนิสัยการถ่ายอุจจาระไม่ตรงเวลาจึงทำให้การคลายตัวของกล้ามเนื้อในลำไส้เริ่มแปรปรนไม่เป็นระบบนำไปสู่อาการท้องผูกได้
3. ความผิดปกติของลำไส้
การทำงานที่ผิดปกติของลำไส้อาจทำให้เด็กบางคนมีอาการขาดสารอาหาร เป็นโรคกระดูกอ่อน หรือภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติเป็นต้น ทำให้กล้ามเนื้อลำไส้และช่องท้องอุจจาระทำงานไม่มีประสิทธิภาพ เด็กบางคนมีความบกพร่องระบบภายในแต่กำเนิดซึ่งอาการท้องผูกที่เกิดจากความผิดปกติของลำไส้นี้ อาจต้องพบแพทย์เพื่อทำการผ่าตัด

สัญญาณหรืออาการที่บ่งบอกว่าลูกท้องผูก
หากทารกไม่มีการขับถ่ายเกิน2วันจะทำให้มีอาการถ่ายแข็ง ถ่ายลำบาก ปวดท้องขณะถ่าย แสดงว่าทารกมีอุจจาระตกค้างในลำไส้นานเกินไป ทำให้การขับถ่ายยากขึ้น พ่อแม่ควรเรียนรู้สัญญาณว่าอาการอย่างไรแสดงว่าลูกเริ่มมีอาการท้องผูกเพื่อรับมือได้ทัน
1.ลูกมีอาการหงุดหงิด งอแง หากลูกงอแงเป็นพิเศษทั้งๆที่ไม่มีอาการไข้ และไม่รู้สึกหิว ควรตรวจสอบที่ท้องของลูกว่าแข็งมั้ย มีอาการท้องอืดหรือไม่ หากอาหารไม่ย่อยจะทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัวได้ เลยเกิดอาการงอแง
2.ไม่รู้สึกหิว เบื่ออาหาร หากลูกไม่ได้ถ่ายเป็นเวลานานแสดงว่าอุจจาระยังตกค้างอยู่ในลำไส้ ทำให้ลูกรู้สึกอึดอัดและเบื่ออาหาร ถึงแม้ว่าคุณแม่จะเปลี่ยนอาหารเป็นเมนูที่ลูกชอบมากที่สุดแล้วก็ตามแต่ลูกก็ยังไม่รู้สึกอยากกินแสดงว่าลูกอาจกำลังเริ่มมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย
3. อาเจียน หากปล่อยให้ลูกท้องผูกนานเกินไปจะทำให้เกิดความดันในช่องท้องทำให้ลูกรู้สึกผะอืดผะอม เนื่องจากอาหารที่ตกค้างอยู่ในช่องท้องนานเกินไป อาการท้องผูกเป็นเพียงหนึ่งในหลายสาเหตุที่ทำให้อาเจียน
4.รูทวารฉีก หากลูกมีอาการท้องผูกอย่างรุนแรงหรือมีอุจจาระแข็งเกินไปจนทำให้เกิดการฉีกขาดที่บริเวณรูทวาร พ่อแม่ต้องพึงสังเกตุอาการเจ็บปวดของลูกน้อยหากลูกร้องไห้อย่างเจ็บปวดขณะเบ่งถ่ายอุจาระหรือมีเลือดออก แสดงว่านั่นเป็นสัญญาณอาการท้องผูกที่จะพัฒนาไปสู่อาการร้ายแรงได้
วิธีจัดการกับอาการท้องผูกของลูก

1.การทานโปรไบโอติก
นอกจากการรับประทานยาแก้อาการท้องผูกแล้ว การทานโปรไบโอติกยังเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาอาการท้องผูกให้กับเด็กๆได้คะการทานโปรไบโอติกในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยลดอาการท้องผูกในเด็กได้
โปรไบโอติกคืออะไร
โปรไบโอติกเป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กหรือที่เราเรียกว่าจุลินทรีย์ชนิดดี ช่วยเสริมสร้างให้ลำไส้แข็งแรง สามารถพบได้ในจำพวกอาหารหมัก เช่น นมเปรี้ยว กิมจิ โยเกิร์ต
2.ปรับเปลี่ยนอาหารการกินให้กับลูก
อาการท้องผูกมักเกิดขึ้นกับเด็กที่กำลังเข้าสู่วัยเจริญเติบโต ดังนั้น พ่อแม่ควรทำการปรับเปลี่ยนอาหาร ให้เข้ากับวัยของเขา โดยปกติเมื่อเด็กโตขึ้นจะมีการดูดซึมของกระเพาะลำไส้มากไปตามวัย พ่อแม่ควรให้ดื่มน้ำมากขึ้นเพือให้อุจจาระของลูกนิ่มลง และควรกินอาหารที่มีเส้นใยเยอะ ผักเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อเด็กกำลังเจริญเติบโต ในแต่ละมื้ออาหารควรมีผักอยู่ด้วยเพื่อช่วยเอื้อต่อการย่อยของลำไส้ ขณะเดียวกันพ่อแม่ต้องฝึกนิสัยการขับถ่ายเป็นประจำทุกวันให้กับลูกด้วย
3. ทานแลคโตโลส
แลคโตโลส เป็นน้ำตาลสังเคราะห์ที่ช่วยในการรักษาอาการท้องผูก เมื่อเด็กมีอาการท้องผูก จนเกิดอาการเจ็บปวดขณะเบ่งถ่าย การทานผลไม้หรือแลตโตโลสจะช่วยในการรักษาอาการท้องผูกได้ ควรให้ลูกกินอาหารที่ย่อยยากให้น้อยลง เพราะหากลูกเกิดอาการท้องผูกเรื้อรังจะส่งผลกระทบระยะยางต่อไตและเลือดในร่างกายในอนาคต
แหล่งอ้างอิง
mama.cn
Heartsmom