ลูกชอบหายใจหอบเวลานอนหลับ
สุขภาพที่ดีของเด็กๆเป็นสิ่งที่พ่อแม่คาดหวังเป็นที่สุดอย่างไรก็ตามความเจ็บป่วยก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะเด็กเล็กเวลาเจ็บป่วยอาจจะไม่สามารถแสดงอาการหรืออารมณ์ออกมาให้ผู้ใหญ่ได้รู้ ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องควรระวังและควรสังเกตปฏิกิริยาการตอบสนองของลูกโดยเฉพาะเวลานอนหลับ หากลูกมีอาการหายใจเสียงดังคล้ายอาการหอบ ควรทำอย่างไร
สาเหตุหลักๆที่ทำให้ลูกหายใจเสียงดังหรือหายใจหอบ
อย่างที่เราเข้าใจกันดีว่าโรคหืดหอบอันตรายมากกับเด็กเล็ก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหามลพิษทางอากาศและหมอกควันเพิ่มมากขึ้นทำให้เด็กจำนวนมากต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศอย่างร้ายแรงและทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจในเด็กเล็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี สาเหตุหลักๆที่ทำให้เด็กเกิดโรคทางเดินหายใจรุนแรงได้แก่

มลพิษทางอากาศ
ความเข้มข้นของฝุ่นละอองที่หายใจเข้าไปจะทำให้อาการของเด็กรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากฝุ่นละอองที่เป็นพิษจะมีความเข้มข้นของไนโตรเจนไดออกไซด์(NO2)โอโซน(O3)คาร์บอนมอนออกไซด์ (CO) ซึ่งจะเพิ่มความรุนแรงให้กับโรค
ความกดอากาศและความชื้นในอากาศ
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างฉับพลันอาจเป็นสิ่งหนึ่งที่กระตุ้นทำให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจ ความดันอากาศที่ลดลง จะเข้าไปขยายเส้นเลือดฝอยเล็กๆทำให้รู้สึกแน่นหน้าอกมากขึ้น มลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้เด็กเกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่าย
สารก่อภูมิแพ้
สารก่อภูมิแพ้เช่นไรฝุ่นหรือขนจากสัตว์เลี้ยง เชื้อราหรือละอองเรณู ล้วนเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้และทางเดินหายใจติดขัด หากเด็กไม่มีภูมิต้านทานที่ดีพอจะทำให้อาการกำเริบได้ง่าย
จุลินทรีย์ก่อโรค
ปกติการที่ทารกหายใจไม่ออกบ่อยๆ อาจเป็นเพราะการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเซลล์เยื่อบุผิวหนัง โดยเชื้อโรคจะทำปฏิกิริยากับหลอดลมทำให้เพิ่มโอกาสในการเกิดโรคหืดหอบได้ง่าย

ลูกหายใจหอบมีอาการอย่างไร
1.ไอ หอบ แน่นหน้าอก มีน้ำมูกไหลเป็นระยะๆหรือไหลตลอดเวลา
2.มีอาการไอมากเมื่อเจออากาศเย็น เนื่องจากอากาศแห้งชื้นทำให้ช่วงลำคอและหลอดลมเกิดอาการระคายเคือง
3.หากเป็นหวัดจะมีอาการนานกว่าปกติ หรือหายช้า
4.ลูกหายใจมีเสียงดังวี๊ดหรือมีเสียงดังครืดคราดคล้ายมีเสมหะในลำคอ
5.หากเป็นหลอดลมอักเสบส่วนใหญ่จะมีอาการน้ำมูกไหลมีอาการไอและอึดอัดช่วงบริเวณคอหอย เสียงแหบแห้งและมีเสมหะและอาจมีอาการไข้ร่วมด้วยถ้าหากเป็นหนักอาจมีอาการอาเจียน
ทำอย่างไรเมื่อพบว่าลูกมีอาการหายใจหอบ
1.พบแพทย์เพื่อติดตามอาการ
2.หลีกเลี่ยงไม่เข้าไปในสถานที่เสี่ยงหรือเข้าใกล้สิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการ
3.หากพบว่าสาเหตุเกิดจากการขาดสารอาหารควรต้องรีบวางแผนปรับเมนูอาหารในทันที
4.หากพบว่าสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆควรต้องรีบพบแพทย์เพื่อไม่ให้อาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น
5.เช็คสภาพอากาศและปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
สรุป
เด็กเล็กมีความบอบบางและต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ดังนั้นคุณแม่จึงต้องระวังใส่ใจสุขภาพของลูก คอยสังเกตอาการกิริยาของลูกเช่นเสียงการหายใจเพราะ เสียงหายใจของทารกสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพของทารกได้เช่นกัน
แหล่งอ้างอิง