เหตุผลที่ลูกชอบร้องกรี๊ดเอาแต่ใจ
การที่ลูกชอบกรี๊ดหรือตะโกนใส่ผู้ใหญ่นั้นต้องมีเหตุผลบางอย่าง สิ่งแรกคือต้องทำความเข้าใจความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นก่อน แล้วจึงปรับวิธีรับมือแก้ไข
3 เหตุผลหลักที่ลูกชอบร้องกรี๊ด
1.รู้สึกกดดัน
เด็กบางคนมีความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตนเองเป็นอย่างมากเมื่อถูกพ่อแม่วิพากษ์วิจารณ์เขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อญาติหลายคนก็วิพากษ์วิจารณ์เขาด้วย เขาจะเริ่มรู้สึกกดดัน และเมื่อความกดดันสะสมถึงระดับหนึ่งทารกจะเริ่มหงุดหงิดง่ายและอาจใช้วิธีการก้าวร้าวเอาแต่ใจออกมา เช่น การตะโกนหรือร้องกรี๊ด เพื่อระบายออกมา

2.รู้สึกถูกมองข้าม
เด็กทุกคนต้องการได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่เสมอ เมื่อพวกเขารู้สึกว่าถูกพ่อแม่เพิกเฉย ไม่สนใจ เด็กบางคนจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น ตะโกนเสียงดัง หรือร้องกรี๊ด เพื่อแสดงความไม่พอใจและเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ปกครอง
3. ต้องการบรรลุเป้าหมายที่ตัวเองต้องการ
เมื่อเด็กเอาแต่ใจต้องการบางสิ่งบางอย่าง หากพ่อแม่ไม่ตามใจ เขาจะตะเบ็งเสียงดังเพื่อพยายามทำให้พ่อแม่มาประนีประนอม เด็กบางคนจะระบายความไม่พอใจด้วยการโวยวายหรือร้องกรี๊ดและแสดงอาการอารมณ์เสียเมื่อถูกพ่อแม่ขัดจังหวะ ขณะที่เขากำลังสนใจหรือทำอะไรบางอย่างแบบจริงจัง
พ่อแม่ควรรับมืออย่างไรเมื่อลูกร้องกรี๊ด
1. แนะนำลูกในการปลดปล่อยความเครียด
สำหรับเสียงกรีดร้องของเด็กที่เกิดจากความหงุดหงิดหรือความกดดันนั้น ผู้ปกครองสามารถแนะนำลูกให้ระบายอารมณ์ในเชิงลบออกมาอย่างเหมาะสม ควรปล่อยให้ลูกได้ระบายทุกข์ภายในใจและควรสอนวิธีการปลดปล่อยความกดดันภายในออกมาไม่ควรเก็บสะสมไว้ และอธิบายในเชิงเหตุผลให้ลูกได้เข้าใจ
2.เสริมสร้างการสื่อสารระหว่างพ่อแม่กับลูก
หากเด็กร้องกรี๊ดหรือตะโกนเสียงเพราะรู้สึกว่าถูกละเลยแม่และพ่อต้องเสริมสร้างการสื่อสารระหว่างพ่อแม่กับลูก ขอแนะนำให้ใช้เวลาทุกวันเพื่อพูดคุยกับลูกน้อยและทำกิจกกรมร่วมกัน เช่น เล่าเรื่องสั้น เล่นเกมเล็กๆ วิธีนี้จะสามารถทำให้เข้าใจถึงอารมณ์การนึกคิดของลูกได้มากขึ้นและสามารถลดอารมณ์ความไม่สบายใจของเขาลงได้

3.อย่าใช้การต่อรองเพียงเพราะลูกตะโกนหรือกรีดร้อง
พ่อแม่ควรมีทัศนคติที่ชัดเจนกับลูกที่พยายามตั้งข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผลผ่านการตะโกนหรือกรีดร้อง พ่อแม่ควรใช้ภาษาและการแสดงออกที่ชัดเจนเพื่อให้เขาเข้าใจว่าการตะโกนนั้นไม่สามารถใช้แลกเปลี่ยนการประนีประนอมหรือต่อรองกับผู้ปกครองได้และควรแนะนำเขาให้พยายามปรับเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองและอธิบายถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว
สรุป
ไม่ว่าลูกจะร้องไห้ด้วยเหตุผลใดก็ตามพ่อแม่ควรสังเกตพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเด็กด้วย และค่อยๆใช้วิธีประนีประนอมและคุยด้วยเหตุผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ควรตะโกนแข่งกับลูกเพราะจะทำให้เขามีความกดดันและเสียใจมากยิ่งขึ้น